วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2554

รังผึ้งช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ โดย Dr.Panvipa Krisdaphong

รศ.ดร.พรรณวิภา กฤษฏาพงศ์ คณบดีสำนักวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัย เพื่อค้นหาสรรพคุณทางการแพทย์ของสารพรอพโพลิสจากรังผึ้ง กล่าวถึงที่มาของงานวิจัยชิ้นนี้ว่า เริ่มจากเกษตรกรในจังหวัดเชียงรายนิยมปลูกผลไม้ ลำไย ลิ้นจี่ และเลี้ยงรังผึ้งบนต้นไม้ เมื่อได้น้ำผึ้งแล้ว ก็จะทิ้งรังผึ้ง ทางมหาวิทยาลัยจึงมีแนวคิดที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับรังผึ้ง และพัฒนาเพื่อใช้ในภาคอุตสาหกรรมได้อีกด้วย

โดยเริ่มศึกษาวิจัยหาคุณ ประโยชน์จากสาร “พรอพโพลิส” (Propolis) สารสกัดจากรังผึ้ง ที่มีลักษณะเหนียวข้นเป็นยาง (Resinous) ซึ่งได้มาจากยางของเปลือกไม้ที่ “ผึ้งงาน” รวบรวมไว้ และนำมาผสมกับไขผึ้งเพื่อซ่อมแซมรัง อุดรอยรั่ว ตลอดจนรักษาความสะอาดและป้องกันการระบาดของเชื้อโรคในรังของผึ้ง
ซึ่ง การเลี้ยงผึ้งในเพลทรังผึ้งจำลอง เพื่อศึกษาโครงสร้างพรอพโพลิสของผึ้ง จากนั้นก็ทำการวิเคราะห์และสกัดเอาสารที่เป็นประโยชน์มาใช้ โดยการสกัดสารพรอพโพลิสนั้นจะอยู่บริเวณทางเข้าของผึ้ง และวิเคราะห์ส่วนผสมพบว่า พรอพโพลิสประกอบด้วย ส่วนผสมของยางไม้และขี้ผึ้งประมาณร้อยละ 50-55 ขี้ผึ้งเหลืองร้อยละ 30 น้ำมันหอมร้อยละ 10-15 และ ละอองเกสรร้อยละ 5 และ เมื่อศึกษาลึกๆลงไป พบสาระสำคัญที่ทำให้พรอพโพลิสเป็นสารปฏิชีวนะที่ดีที่สุดตามธรรมชาติ คือ สารประกอบฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) จากพืชที่มีคุณสมบัติต่อต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันต่อต้านเชื้อ แบคทีเรีย เชื้อไวรัส เชื้อรา และมีคุณสมบัติยับยั้งการอักเสบได้ดี ในต่างประเทศยังนำพรอพโพลิสมาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ ต่างๆ เช่น สบู่, ยาสีฟัน เพื่อช่วยป้องกันและยับยั้งแบคทีเรีย ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก.


โดย เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น